ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Price action
Price action เป็นศาสตร์ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดย Price action เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยพฤติกรรมของนักลงทุน ที่แสดงออกมาในรูปแบบของกราฟราคา ที่ต้องอาศัยความรู้หลายๆ อย่างและประสบการณ์ในการเทรดบนตลาดรวมกัน เพื่อที่จะใช้วิเคราะห์ด้วย Price action
Price action มีประวัติมาอย่างยาวนานแล้วมีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน จึงไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า ใครคือผู้คิดค้นริเริ่ม Price action นีขึ้น
Price action จะทำให้เราประสบความเร็จได้จริงหรือไม่?
ตอบ จริงครับ แต่ไม่ใช่ว่าคงทุกคน เนื่องจากว่าบางคนอาจจะไม่เหมาะกับการเทรดโดยใช้หลัก Price action
หากว่าตอนนี้คุณสามารถทำกำไรได้และอยู่รอดในตลาดได้จากระบบเทรดปัจจุบันของคุณ Price action อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคุณ เนื่องจาก Price action เป็นเพียงศาสตร์หนึ่งไม่ได้มีอะไรแน่นอน 100% ไม่ได้บอกว่าถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องมี Price action จริงๆแล้วไม่ใช่เพราะเทคนิคของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป บางคนก็จะประสบความสำเร็จด้วยการวิเคราะห์ Indicator บางคนก็อาจจะประสบความสำเร็จด้วย EA และอื่นๆอีกมากมาย
ในเนื้อหาบทเรียนบทนี้เราจะเน้นไปที่ทำความเข้าใจและรู้จัก Price action ไม่ลงรายละเอียดลึกถึงระดับขั้นสูงนะครับ ถือว่าเป็นพื้นฐานของ Price Action นะครับ
รูปแบบ Price action
Price action จะมีอยู่ 4 รูปแบบหลักๆด้วยกันได้แก่
1. Inside Bar
2. Outside Bar
3. Fakey Setup
4. Pin Bar
1. Inside Bar
ลักษณะของ Inside Bar ประกอบด้วย
1. มีแท่งใหญ่ที่ชื่อว่า Mother Bar
2. จะมีแท่ง Inside Bar วิ่งอยู่หลังในกรอบความยาวของ Mother Bar กี่แท่งก็ได้ (ความยาวหมายถึง ความยาวตั้งแต่จุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของแท่ง Mother Bar)
ถ้าหากแท่งไหนออกนอกกรอบความยาวของแท่ง Mother Bar เราไม่เรียกแท่งนั้นว่า Inside Bar แต่เราเรียกว่าการ Breakout
หลักการทำกำไร
ถ้าแท่ง Inside Bar ทะลุออกนอกกรอบความยาวของแท่ง Mother Bar หรือ Breakout ออกไปในทิศทางไหน ทำตามสัญญาณนั้น เช่น ราคาทะลุลงมาจนออกนอกกรอบความยาว Mother Bar ให้ทำการ Sell ถ้าราคาทะลุขึ้นมาจนออกนอกกรอบความยาว Mother Bar ให้ทำการ Buy เป็นต้น
2. Outside Bar
ลักษณะของ Outside Bar ประกอบด้วย
1. จะมีแท่ง Outside Bar วิ่ง อยู่หหน้าในกรอบความยาวของ Mother Bar (ความยาวหมายถึง ความยาวตั้งแต่จุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของแท่ง Mother Bar)
2. มีแท่งใหญ่ที่ชื่อว่า Mother Bar
จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Inside Bar แต่แตกต่างกันตรงที่ Outside Bar จะมีแท่ง Mother Bar อยู่ข้างหลังตัวแท่งเทียน
หลักการทำกำไร
ถ้าเกิดแท่ง Mother Bar เป็นสัญญาณอะไร ให้ทำตามสัญญาณนั้น เช่น ถ้าแท่ง Mother Bar เป็นแท่งขาลง (ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด) ให้ทำการ Sell ถ้าแท่ง Mother Bar เป็นแท่งขาขึ้น(ราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิด) ให้ทำการ Buy
3. Fakey Setup
ลักษณะของ Fakey Setup จะมีลักษณะ
1. มีแท่งใหญ่ที่ชื่อว่า Mother Bar
2. จะมีแท่ง Inside Bar วิ่ง อยู่หลังในกรอบความยาวของ Mother Bar กี่แท่งก็ได้ (ความยาวหมายถึง ความยาวตั้งแต่จุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของแท่ง Mother Bar)
จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Inside Bar มากๆ แต่แตกต่างกันตรงที่ Fakey Setup จะมี Breakout หลอก แล้วราคาจะเด้งขึ้นไปอีกฝั่ง
ถ้าในความเป็นจริงตอนที่มันมีการ Breakout เราก็คงคิดว่ามันจะเกิด Inside Bar หลายๆคนก็คงจะรีบเปิดออร์เดอร์ แต่พอ Breakout ไม่สำเร็จแล้วราคากลับมาวิ่งในความยาวของแท่ง Mother Bar ถ้าเราเปิดออร์เดอร์ไปตามหลักของ Inside Bar ไปแล้ว ให้เราทำการ Stop Loss ไว้ก่อน แล้วให้เราคิดว่าก่อนเลยว่า Breakout ก่อนหน้านี้อาจจะเป็น Breakout หลอก ให้เรานึกถึง รูปแบบ Fakey Setup ไว้ก่อนเลยนะครับ รอราคาเคลื่อนที่ไปอีกฝั่งถ้าราคาเคลื่อนที่ไปอีกฝั่งแล้วเกิดการ Breakout สำเร็จตรงข้ามกับฝั่ง Breakout หลอก นั้นคือ Fakey Setup
หลักการทำกำไร
เมื่อเกิด Breakout หลอก ให้เราซื้อขายฝั่งตรงข้ามของ Breakout หลอก เช่น มีการ Breakout หลอกที่แนวรับ ให้เรารอจนกว่าราคาจะมีการ Breakout ที่แนวต้าน จนมันทะลุไปได้จนสำเร็จ ให้เราทำการ Buy มีการ Breakout หลอกที่แนวต้าน ให้เรารอจนกว่าราคาจะมีการ Breakout ที่แนวรับ จนมันทะลุไปได้จนสำเร็จ ให้เราทำการ Sell
4. Pin Bar
ลักษณะของ Pin Bar
1. มีอยู่ด้วยกัน 3 แท่ง ได้แก่ แท่งตาซ้าย, แท่งจมูก, แท่งตาขวา
ถ้าหลายๆคนเคยศึกษามาจากที่อื่นเกี่ยวกับเรื่องแท่ง Pin Bar จะเห็นได้ว่าคำว่า Pin Bar จากสถาบันอื่นอาจจะหมายถึงแท่งจมูกแท่งเดียวเลย แต่ผมลองไปศึกษามาแล้วปรับเปลี่ยนแก้ไขดูจนความคิดเห็นส่วนตัวผมคิดว่า Pin Bar ประกอบด้วย 3 แท่งน่าจะดีกว่าครับ
2. แท่งจมูกจะต้องมีลักษณะเนื้อเทียนสั้นๆ แต่มีไส้เทียนยาวๆ และเนื้อเทียนของแท่งจมูกควรสั้นมากกว่าเนื้อเทียนของแท่งตาซ้ายขั้นต่ำ 3-4 เท่า
3. เนื้อเทียนของแท่งจมูกจะต้องอยู่ในเนื้อเทียนของแท่งตาซ้าย
หลักการทำกำไร
จะเปิดออร์เดอร์ โดยให้แท่งจมูกเป็นสัญญาณ คือหลังจากการปิดแท่งจมูกให้เราเปิดออร์เดอร์ ถ้าแท่งจมูกอยู่ข้างล่างแท่งตาซ้าย (ภาพในตัวอย่างคือแท่งจมูกอยู่ข้างล่างแท่งตาซ้าย) ให้เราทำการ Buy ถ้าให้ชอบเทรดสั้นๆ ก็สามารถตั้งเป้าหมายราคาได้โดยให้จุดสูงสุดแท่งตาซ้ายเป็นจุด Take Profit
ถ้าแท่งจมูกอยู่ข้างบนแท่งตาซ้าย ให้เราทำการ Sell ถ้าใครชอบเทรดสั้นๆ ก็สามารถตั้งเป้าหมายราคาได้โดยให้จุดต่ำสุดแท่งตาซ้ายเป็นจุด Take Profit
เครดิต https://www.exness.com/a/rpvhfufs
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น