วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

มุมกาแฟ สบายๆ สไตล์ลุงลักษ์1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

มาฟังแนวคิดของลุงลักษ์กันบ้าง ดึงสติกันนิดนึง ซุ่มรอเหยื่อก่อนลงมือเด้อ

------------------------------------------------------
มุมกาแฟ สบายๆ สไตล์ลุงลักษ์ ภาคพิเศษ
22.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อเมริกาดำรงสภาพเศรษฐกิจแบบซอมบี้ทุกวิถีทางในสมัยโอบ้ามากเพื่อให้ยังคงยืนอยู่ไม่ล้มลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความเชื่อมั่นของผู้คนเพราะเกรงใจภาพการเป็นบิ๊กเบิ้มของจิ๊กโก๋โลก ที่มีเงามืดชักใยเฟดให้ปั้มเงินและสร้างหนี้ท่วมหัวด้วยการหยิบยืมจากประเทศคู่ค้าเพราะได้กดดอกเบี้ยต่ำติดดินจนทำให้ต้นทุนในการพิมพ์ธนบัตรจริงต่ำในระดับ 0-0.25% ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับฐานภาษีทุกรูปแบบที่รีดมาจากมะริกันชน ในวันเวลาที่ผ่านมาหลังจากเกิด hamburger crisis จากปี 2008 และวิกฤติอื่น แต่จากการขยับเข้าสู่ตระกร้าเงินของหยวนสู่ IMF และการที่รัสเซียกับจีนไม่ยอมใช้เปโตรดอลลาร์ทำให้ความเสถียรของดอลลาร์กระทบกระเทือนอย่างหนักเนื่องจากระบบสกุลเงินดอลลาร์ที่ถูกพิมพ์ออกมาถูกหนุนหลังอยู่ได้ด้วยพันธบัตรรัฐบาลหรือTreasury bond และ Mortgate-back security หรือสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์แปลงเป็นสินทรัพย์ ซึ่งดอลลาร์เหล่านี้ถูกใช้เป็นฐานเงินสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกในการพิมพ์เงินสกุลตนเองออกมาใช้จ่ายอีกทีหนึ่ง

เมื่อมีการขยับดอกเบี้ยนั่นหมายถึงพันธบัตรเหล่านี้จะเสื่อมค่าลงทำให้ผู้ถือพันธบัตรของอเมริกาขาดทุนจาก Mark to Market หรือการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ในทันที ทำให้จีนซึ่งถือพันธบัตรเหล่านี้ของอเมริกาถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นทุนสำรองต้องขายพันธบัตรออกต่อเนื่องมานานหลายเดือน รวมไปถึงธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกด้วย ก่อให้เกิดการตกต่ำของราคาพันธบัตร แต่อเมริกายอมไม่ได้เพราะค่าเงินตนจะไร้ค่าเป็นเงินกงเต็ก เสื่อมค่าจนอาจโกลาหลเพราะกระแสการขายพันธบัตร

ทำให้เงินที่ตนเองพิมพ์ไม่อั้นออกไปหมุนเวียนทั่วโลกจะไหลบ่ากลับประเทศเร็วเกินไปจนควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้ ทำให้เฟดลังเลและดึงเวลาการขยับดอกเบี้ยมาจนถึงเดือนธันวาคม เมื่อจะขยับดอกเบี้ยทันทีไม่ได้ก็จำเป็นต้องทำให้ไม่มีสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นขึ้นมาแข่งกับพันธบัตรของตนเพื่อดึงเงินให้กลับเข้าไปเปลี่ยนมือถือพันธบัตรเหล่านั้นแทน โดยการทำให้ตลาดหุ้นเป็น Super Trend ทำ All Time High เพื่อให้เป็นไปตามทฤษฎีที่เหล่ากูรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ร่ำเรียนมาว่าถ้าผลตอบแทนตลาดหุ้นและพันธบัตรใกล้เคียงกัน แล้วทฤษฎีสอนว่าพันธบัตรความเสี่ยงต่ำกว่ามนุษย์โลกจึงควรเลือกลงทุนในพันธบัตรแทน นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องทำให้ทองอ่อนค่าลงไม่ให้มาเป็นสิ่งกีดขวางรัศมีพันธบัตร เครื่องมือที่อเมริกามีคือการเทรดฟิวเจอร์ทองคำในตลาด Comex ร่วมกับปล่อยข่าวลวงโลกสารพัดเพื่อทำให้ทองหมดความน่าเชื่อถือ และกดดันให้ทองด้อยค่าลงเรื่อย ๆ จนเริ่มเข้าใกล้ต้นทุนการผลิตหน้าเหมืองที่ประมาณ $950 ต่อออนซ์เพ่ือเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนถือพันธบัตรดอลลาร์ต่อไป และรอการมาถึงของทรัมป์เพื่อรับมือกับปัญหาเงินกงเต็กไหลกลับประเทศครั้งนี้
เทรดเดอร์อย่างเราจึงยังลังเลที่จะเข้า Long ทองคำจนกว่ากระแสกดดันนี้จะเสื่อมไปในวันหน้า แม้เราจะเห็นว่าทองราคาถูกมากก็ต้องยับยั้งชั่งใจรอจนกว่าถึงเวลาเหมาะสมในการถือยาวซึ่งน่าจะเป็นในช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นอย่างเร็วที่สุด ส่วนตัวมองว่าน่าจะยาวนานกว่าปีด้วยซ้ำไปจึงจะเห็นการขึ้นสู่ราคาแท้จริง แต่ระหว่างนั้นก็อาจมีการแกว่งขึ้นได้บ้างเพื่อสะสมทุนของบรรดาเจ้าภาพ
ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้นเพราะกว่าที่ทรัมป์จะปรับสภาพทั้งนโยบายลดภาษีเพื่อเติมเงินในกระเป๋าชาวอเมริกาให้มากขึ้นด้วยหวังจะกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะสินทรัพย์ Mortgate ที่ปัจจุบันบวมอลึ่งฉึ่งไม่ให้ฟ่อไปให้ได้เพื่อเป็นหลักในการประคองภาพรวม และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกลับมาเป็นประเทศส่งออกแทนประเทศผู้บริโภคอย่างปัจจุบันด้วยการดึงอุตสาหกรรมกลับประเทศให้คนมีตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ปุบปับทันทีทันใด จะต้องรอผลกระตุ้นจากการลงทุนในภาครัฐให้เห็นผลก่อนซึ่งใช้เวลาไม่น้อย

ดังนั้นระหว่างนี้จึงได้แต่แนะนำให้ Short อย่างเดียว ด้วยเหตุผลว่าอเมริกาต้องเลี้ยงไข้พันธบัตรเอาไว้อย่างทุ่มสุดตัว ไม่อย่างนั้นธนาคารของตระกูลอีลิท...เจ๊งกะบ้ง...หนักแน่เพราะจำเป็นต้องจ่าย Interrest rate future ที่ตนเองออกไว้หรือที่เรารู้จักกันว่า ค่า Swap มหาศาลในตลาดที่มูลค่ามากกว่า Market Cap ของโลกถึง 6 เท่าในปัจจุบัน

ก็มาเล่าสู่กันฟังพอเป็นกระสายยาและเป็นไกด์ไลน์สำหรับการตัดสินใจสู้ข่าว NFP รวมไปถึงการลงประชามติของอิตาลีในวันอาทิตย์ด้วย
เป้าหมายแม่ทองสุกถัดไปคือ 1145 Zone จากการคำนวณตามรูปแบบของ Harmonic Pattern

สวัสดี
ลุงลักษ์ จ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น