วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โพสต์แรกของพิชัย จาวลา หลังจากหายไป 8 เดือน

loading...


พิชัย จาวลา
เจ้าของทฤษฎีผลประโยชน์

หลังจากห่างหายไปนาน 8 เดือน พิชัย จาวลาได้ออกมานัดหมายแฟนคลับเมื่อ 9 สิงหาคม 2559 ว่าจะออกมาคุยกันในวันที่ 10 สิงหาคม 2559  และ ในที่สุดพิชัย ก็ออกมาแสดงทรรศนะดังนี้

สวัสดีครับ หายไปนานวันนี้เลยยังเกร็งๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไง comments ก็ยังไม่ได้เริ่มอ่าน ขอเวลา2-3วันจะทะยอยอ่านจนครบและตอบครับ 

ตลาดหุ้นที่ขึ้นมา1550ผมถือว่า ยังไม่ได้พิสูจน์ทฤษฎี อะไรมาก ก็แค่กลับขึ้นมาจุดเดิมก่อนลง พร้อมกำไรตามสมควรสำหรับคนที่ได้ซื้อเฉลี่ยขาลง ทฤษฎีนี้จะพิสูจน์ตัวเองว่ามีคุณค่าจริง ก็เมื่อเห็นsetที่ 1800 จุดขึ้นไป ภายในปีหน้านี้ เพราะไม่มีวิธีคิดอื่นใดในขณะนี้ที่บอกว่าเป็นไปได้ มีแต่บอกว่าsetเต็มมูลค่า จะside way และ upside เหลือน้อย ส่วน ณ 1550 นี้ set จะมีการปรับฐานมากหรือน้อยหรือขึ้นต่อเนื่องไปเลยไม่ทราบครับ และไม่จำเป็นต้องรู้ก็กำไรได้ ชัยชนะจะเป๋นของผู้ที่เอาวิธีคิดไปapplyใช้ในการมองภาพใหญ่ และ ซื้อ ถือ ลืม โดยละเลยในภาพเล็ก อย่าจ้องดูหุ้นตามติดทุกวัน ถ้ามั่นใจในภาพใหญ่ ทำเป็นลืมๆ นานๆแอบดูซักที ดีกว่าครับ ดูทุกวันจะอดขายไม่ได้ ผมก็เคยเป็น :) 

ส่วนทองคำคือสิ่งที่ได้พิสูจน์ทฤษฎีเรียบร้อยแล้ว ว่าใช้ได้จริง ในขณะที่ไม่มีวิธีคิดใดอธิบายได้ว่าทองจะขึ้นมาจาก 1100ได้ขนาดนี้ และกำลังจะข้าม 1400 เหรีญในอีกไม่นาน กลังจากนั้นก็ค่อยๆทะยอยขายตั้งแต่ 1400-1700 แล้วแต่พอใจตรงไหนและอยากรอแค่ไหน ส่วนผมคงเริ่มขายแถวๆ1450 ส่วนใครที่รู้สึกอึดอัด หุ้นและทองก็ขายไปแล้ว เหลือน้อย ไม่ว่าจะด้วยเหตผลอะไรก็ตาม และตรงนี้ก็ไม่กล้าซื้อ 

ขอแนะนำให้ซื้อหุ้นญี่ปุน และถือในระยะยาว หุ้นเกาหลีก็ดี แต่ไม่รู้มีกองทุนหรือไม่ หุ้นญี่ปุ่นเวลานี้กำลังเข้าทฤษฎีพอดี กองทุนใหญ่ๆในโลกหลายกองที่เปิดเผย ได้ขายหรือถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่น นโยบายการเงิน การคลัง ดอกเบี้ย ฯลฯ ไม่ได้ผล เศรษฐกิจไม่ฟื้น เยนเเข็ง และเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มตัว หาเหตผลว่าควรลงทุนใน nix แทบไม่เจอ คนส่วนใหญ่ขาย จึงควรลงทุนอย่างยิ่งเมื่อapply ด้วยระบบผลประโยชน์ เราจึงจะเห็นหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นได้อีกมาก จนถึง 25000-30000 จุด หรืออาจเกินก็ได้ใน 1-3 ปีข้างหน้า และเงินเยนก็จะอ่อนถึง 120-150 เยนต่อดอลล่าห์ สหรัฐ เศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงกำลังจะฟื้นอย่างแข็งแกร่ง จากเงินเยนที่อ่อนเป็นสำคัญ ส่วนสังคมผู้สูงอายุไม่ใช่ประเด็นทั้งที่ญี่ปุ่นและบ้านเรา เพราะไบโอเทคโนโลยี อีกประมาณ20-30ปีข้างหน้า จะสามารถทำให้คนเรามีอายุยืนถึง100-150. ปีได้ และเทคโนโลยีAI ก็จะมาแทนที่มนุษย์ทั้งคนหนุ่มคนแก่อยู่แล้วในอนาคต และเรื่องภาระหรืองบประมาณการเลี้ยงดูคนชราก็คงต้องคิดกันใหม่ ประเทศที่เศรษฐกิจดีจะไม่ขึ้นอยู่กับการมีแรงงานคนวัยหนุ่มสาวเยอะๆ มากนัก แต่ขึ้นอยู่กับการมีความรู้และใช้เทคโนโลยี ตลาดหุ้นฝั่งเอเซียก็คงขึ้นไปด้วยกันนั่นแหละครับ เช่นหั่งเส็งฮ่องกงก็ok ประมาณสิ้นเดือนนี้ผมอยากจะขอนัดเจอกันที่ตำ ณ ดาว เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการใช้ และตีความ ทฤษฎีผลประโยชน์ ในอนาคต ก่อนจะวิเคราะห์ หรือฟันธงอะไรออกมา รูปแบบชัดเจนผมยังไม่ได้คิด ไว้คุยกันที่นั่น ขอผมติดต่อร้านตำณดาวได้วันเวลาแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ ส่วนเรื่องหุ้นญี่ปุ่นและค่าเงินเยนผมขอ offside ไปก่อนนะครับ :)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น