วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

6ถึง12พย2021 รวมข่าวเด่นในวงการคริปโตจาก BITKUB

 รวมข่าวเด่นในวงการคริปโตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

1.Bitcoin อัปเดต Taproot เตรียมรองรับ Smart contract

ภายในช่วงต้นสัปดาห์หน้า เครือข่าย Bitcoin จะมีการอัปเดตใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ในชื่อ Taproot โดยเป็นการอัปเดตที่มุ่งพัฒนาความเป็นส่วนตัว ประสิทธิภาพโดยรวม และการรองรับ Smart contract ผ่านการเพิ่มฟังก์ชัน Merkelized Abstract Syntax Tree (MAST) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขสำหรับการเซ็นยืนยันธุรกรรมร่วมกันได้


ทั้งนี้ การอัปเดทใหญ่ครั้งที่ผ่านมาของ Bitcoin คือในเดือนสิงหาคม 2017 ที่มีการเพิ่มฟังก์ชัน Segregated Witness ทำให้เกิดเครือข่าย Lightning Network ตามมา

ที่มา: Cointelegraph


2.Mastercard เปิดตัวบัตรเครดิตคริปโทฯ ในทวีปเอเชียแปซิฟิก

ผู้ให้บริการบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่อย่าง Mastercard สร้างกระแสใหญ่อีกครั้ง ด้วยการประกาศเปิดตัวบริการบัตรชำระเงินที่เชื่อมต่อกับคริปโทเคอร์เรนซีในทวีปเอเชียแปซิฟิก


บริการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ ๆ ในภูมิภาค โดยเป็นบัตรชำระเงินที่สามารถเป็นคริปโทฯ ของผู้ถือเป็นเงินสดเพื่อใช้ชำระเงินกับร้านค้าที่รองรับได้ทันที


ทั้งนี้ ทาง Mastercard ได้ระบุว่า “แทนที่จะเป็นการโอนคริปโทฯ เข้าไปยังกระเป๋าของร้านค้า บัตรนี้จะทำการแลกเปลี่ยนคริปโทฯ เป็นเงิน Fiat แทน ทำให้บัตรนี้สามารถใช้ร่วมกับร้านค้าที่รับบัตร Mastercard ได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์หรือแบบออฟไลน์”

ที่มา: Cointelegraph


3.Tim Cook เผย ตนกำลังถือคริปโทฯ

Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ New York Times ว่าตนกำลังถือครองคริปโทเคอร์เรนซีเป็นการส่วนตัวเพื่อ “กระจายความเสี่ยงในการลงทุน” แต่ทางบริษัทฯ ยังไม่มีแผนเข้าลงทุนในคริปโทฯ อย่าง Bitcoin หรือโทเคนอื่น ๆ ตามรอย Tesla และยังไม่มีแผนรองรับคริปโทฯ เป็นช่องทางการรับชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าแต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้กล่าวอีกว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมถือครองคริปโทฯส่วนหนึ่งในพอร์ท เพราะผมสนใจพวกมันมาสักพักหนึ่งแล้ว ผมคิดว่ามันน่าสนใจดี”

ที่มา: Cointelegraph


4.นักการเมืองบราซิล เสนอเพิ่มคริปโทฯ เป็นทางเลือกค่าจ้าง

Luizão Goulart สมาชิกวุฒิสภาบราซิล เสนอร่างนโยบายเพิ่มคริปโทเคอร์เรนซีเป็นทางเลือกรับค่าจ้างสำหรับลูกจ้างทั้งข้าราชการและเอกชน โดยลูกจ้างสามารถตกลงกับนายจ้างว่าจะเลือกรับค่าจ้างเป็นสัดส่วนคริปโทฯ กับเงินสดอย่างละกี่ % ซึ่งทางนายจ้างจะไม่สามารถปรับสัดส่วนดังกล่าวได้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง


หากนโยบายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบและมีผลบังคับใช้จริง จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศเพื่อเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ที่มา: Cointelegraph


5.ซิมบับเวอาจเป็นชาติต่อไปที่ยอมรับ Bitcoin ถูกกฏหมาย

Brigadier Colonel Charles Wekwete อดีตเลขาธิการประจำสำนักประธานาธิบดีซิมบับเว ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังเจรจาเกี่ยวกับการยอมรับ Bitcoin ให้สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากประชาชนในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นอกจากนี้ เขายังระบุอีกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่างกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและระบบการเงินในอนาคตของประเทศ ดังนั้น จนกว่าจะมีความคืบหน้าสำคัญ อาจต้องรอให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินงานไปจนถึงระดับหนึ่งก่อน

ที่มา: Cointelegraph


6.ว่าที่นายกฯเมืองนิวยอร์กต้องการให้สอนเรื่องคริปโทฯ ในโรงเรียน

Eric Adams ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีอีกครั้ง โดยได้กล่าวในการสัมภาษณ์กับ CNN ว่า โรงเรียนในพื้นที่ควรพิจารณานำเรื่องคริปโทเคอร์เรนซีมาบรรจุลงหลักสูตร


โดยเขาได้อธิบายว่า คริปโทเคอร์เรนซีเป็นช่องทางใหม่สำหรับการชำระเงินทั่วโลก การให้ความรู้ในเรื่องนี้จะช่วยเปิด “มุมมองและแนวคิดใหม่ ๆ “ ที่เกิดจากเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับนักเรียน


นอกจากนี้ เขายังได้แสดงความกังวลว่า น้อยคนนักที่จะรู้จักและเข้าใจเทคโนโลยีบล็อกเชนกับบิตคอยน์ เพราะบ่อยครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ หลายคนมักจะถามว่ามันคืออะไร?

ที่มา: Cointelegraph


7.องค์การแพทย์ไร้พรมแดน เริ่มใช้บล็อกเชนบันทึกข้อมูลการแพทย์แล้ว

ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders) ได้ร่วมมือกับ Transcrypts บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกสารที่ใช้บล็อกเชน เพื่อบันทึกเอกสารมากกว่า 6,500 รายการขึ้นไปอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะบันทึกให้ได้ 76,000 รายการภายในปี 2022


ทั้งนี้ ข้อมูลการแพทย์ที่บันทึกลงบนบล็อกเชน ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน COVID-19 แต่ทางองค์การได้ยืนยันว่ามีแผนที่จะบันทึกข้อมูลการแพทย์ทุกอย่างลงบล็อกเชน ซึ่งคนไข้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านมือถือ

ที่มา: Cointelegraph


*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน

cr : https://medium.com/bitkub/crypto-weekly-8c5b040541aa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น